วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประวัติบริษัททีพีไอโพลีน

นายประชัยได้ก่อตั้งบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2521 ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน มีศักยภาพผลิตน้ำมันได้ 215,000 บาร์เรลต่อวัน ด้วยเงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีแบบครบวงจร เปิดโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก โรงงานแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ที่จังหวัดระยอง ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2525 นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างโรงไฟฟ้า โครงการผลิตคาโปรแลกตัม และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่นๆ

ในปี พ.ศ. 2532 ประชัยก่อตั้งบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ก่อสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และออกหุ้นกู้ ระดมเงินจากต่างประเทศ เพื่อมาขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์อย่างต่อเนื่อง จากกำลังการผลิต 78000 ตันในปี 2533 เป็น 9.0 ล้านตันในปี 2540

สาส์นจากผู้บริหาร

บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำเพื่อป้อน

ให้กับตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ โดยนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาใน

ภาวะที่ประเทศชาติขาดเงินตราต่างประเทศอย่างหนักและก่อให้เกิดการว่าจ้างแรง

งานมากมาย บริษัทตระหนักดีถึงบทบาทและความรับผิดชอบใน

ฐานะองค์กรที่ดีของประเทศไทยต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราจึงลงทุน

ในกิจกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมต่าง ๆ จำนวนมาก รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวด

ล้อมที่ดีและให้ความร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ และรัฐบาลในการปลูกป่า เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการพิทักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งในชุมชน

จังหวัดสระบุรีและทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

มาตรฐานสากล ISO 14001 มาปฏิบัติในการดำเนินงานของบริษัท มาตรฐานที่เข้มงวดนี้ช่วยทำให้เราใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบและพลังงานได้มากที่สุด

ช่วยลดปริมาณของเสียให้เหลือน้อยที่สุด ตลอดจนดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

และมีผลกระทบน้อยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อม

ความสำเร็จในการได้รับการรับรองระบบการจัดการคุณภาพมาตรฐาน ISO 14001 เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและวิริยะอุตสาหะของพนักงานทุกคนของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผมจึงใคร่ขอแสดงความขอบคุณต่อทุกท่านที่ได้มีส่วนช่วยให้เราประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เราจะต้องไม่หยุดยั้งอยู่แค่ความสำเร็จแต่เพียงเท่านี้ เราจะต้องปรับปรุงการทำงานของเราต่อไป และพยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของเราเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนรุ่นหลัง



                                                                   นายวิสิทธิ์ น้อยพันธุ์
                                                                    ประธานกรรมการ

                                                               นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์



                  

           

                                                                         

สำนักงานใหญ่
26/56 ถนนจันทน์ตัดใหม่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
โทร. (66 2) 285-5090, 213-1039 โทรสาร. (66 2) 213-1035

โรงงานสระบุรี
299 หมู่ 5 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 18260 โทร 036-339111




คณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552

ชื่อ - นามสกุล ตำแหน่ง

1. นายวิสิทธิ์ น้อยพันธุ์ ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ

2. นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ

3. นายประทีป เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ

4. นายชัยณรงค์ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการ

5. ดร.ประมวล เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ

6. ดร.นราศรี ไววนิชกุล กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ

7. นางบุญศรี เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ

8. นางสาวสุจิตรา เตชะนาวากุล กรรมการ

9. ดร.ชวิน เอี่ยมโสภา กรรมการ

10. นายประหยัด เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ

11. นางอรพิืน เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ

12. นายมนัส สุขสมาน กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ

13. พลตำรวจเอกชาญชิต เพียรเลิศ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ

14. นายพิเศษ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการ

15. นานทวิช เตชะนาวากุล กรรมการอิสระ

16. นายทยุติ ศรียุกต์สิริ กรรมการ

17. นายขันธ์ชัย วิจักขณะ กรรมการอิสระ

หมายเหตุ :

1.นายขันธ์ชัย วิจักขณะ ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2552

2.นายนิติสิทธิ์ จงพิทักษ์รัตน์ ทำหน้าที่เลขานุการบริษัท

ขอบเขตอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท

1. ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ให้เป็นไปตามกฎหมายวัตถุประสงค์

และข้อบังคับด้วยความระมัดระวังเื่พื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท และรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น

2. พิจารณานโยบาย วิสัยทัศน์ แผนงาน และกลยุทธ์ที่สำคัญเกี่ยวกับทิศทางและนโยบายของ

บริษัท รวมทั้งจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจและกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามแผนงาน

ที่กำหนด ไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทและความคืบหน้าที่สำคัญด้านต่างๆ

4. กำหนดเิงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้น

5. จัดให้มีระบบบัญชี การรายงานทางการเงินและการสอบบัญชีที่ถูกต้อง โปร่งใส ทันต่อเวลา

และเป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป

6. ดูแลระบบการควบคุมภายใน และกำกับการตรวจสอบภายในและการตรวจสอบภายนอก

ให้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิผล รวมทั้งดูแลให้มีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

7. จัดให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม

รวมถึงดูแลในเรื่องการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทและสาธารณะชนอย่างเหมาะสม

8. ดูแลและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์รวมถึงรายการที่เกี่ยวโยงที่อาจเกิดขึ้น

ให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง





ธุรกิจซีเมนต์

เป็นบริษัทผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำที่สามารถครอง สัดส่วนการตลาดในประเทศได้ประมาณร้อยละ 20 ในช่วงระยะในช่วงระยะเวลาเพียง 10 ปี ครองความเป็นผู้นำในสัดส่วนการตลาดใน ประเทศสำหรับปูนสำเร็จรูป

เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำ

ของทั้งในและระหว่างประเทศ ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำสุด

เป็นบริษัทผลิตปูนซีเมนต์รายแรก ในประเทศ ที่ได้รับการรับรอง มาตรฐานสากล

ด้านคุณภาพ ISO 9002 จากสถาบันนานาชาติ

รางวัลและมาตรฐานที่ได้รับมาตรฐานสากล ระบบการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001 : 2000

ในขอบข่ายการผลิต และ จำหน่ายปูนซีเมนต์ แบบครบทั้งในส่วน โรงงานสระบุรี สำนักงานใหญ่

และศูนย์จ่ายปูนซีเมนต์ จากสถาาบัน AJA Registrars

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 จำนวน 2 ฉบับ ในขอบข่ายการผลิต ปูนซีเมนต์ และการกำจัดกากอุตสาหกรรม จากสถาบัน AJA Registrars

มาตรฐานระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย TIS 18001 หรือ มอก. 18001 ในขอบข่ายการผลิตปูนซีเมนต์ และการกำจัดกากอุตสาหกรรม จากสถาบัน AJA Registrars

สถานประกอบการยอดเยี่ยม ประเภทโรงงานควบคุมที่อนุรักษ์พลังงาน ระดับประเทศ

(ที่ 1 ของประเทศไทย) จากกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม Testing Agency License for Cement Testing จาก Los Angeles Department of Building and Safety

ได้รับการรับรองห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนด้านสารมลพิษ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

ได้รับการรับรองคุณภาพปูนซีเมนต์ประเภท CEMI 42,5 R-NA และ CEMI 52,5 R-NA ตามมาตรฐาน DIN1164 จาก Landesmaterialprufamt Sachsen_Abhalt

ได้รับการรับรองคุณภาพปูนซีเมนต์ประเภท CEMI 42,5 R-NA และ CEMI 52,5 R-NA

ตามมาตรฐาน DIN 1164-1 (10/94) จาก Amtliche Materialprufungsanstalt Bremen
ได้รับการรับรองคุณภาพปูนซีเมนต์ประเภท

CEMI 52,5 และ CEMI 52,5 R ตามมาตรฐาน NEN3550 จาก KOMO Productcertificate

ได้รับใบประกาศเกียรติคุณดีเด่นด้าน การบริหาร และคุ้มครองด้านความปลอดภัย ในการทำงาน รวมทั้งด้านการจัดการและดูแล

สภาพแวดล้อมในการทำงานจากกรมสวัสดิการ และคุ้มครอง แรงงาน กระทรวงแรงงานและ สวัสดิการสังคม

ธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ

ครองสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับ 2 ด้วยระยะ เวลาเพียง 3 ปี

รางวัลและมาตรฐานที่ได้รับมาตรฐาน สากลระบบ การจัดการด้านคุณภาพ

ISO 9001 : 2000 สำหรับหน่วยผลิต รังสิตคลองหลวง จากสถาบันรับรอง

มาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้าน สิ่งแวดล้อม ISO 14001 สำหรับหน่วยผลิต พุทธมณฑลสาย 5 จากสถาบัน BVQI (Bureau Veritas Quality International)

มาตรฐานระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย TIS 18001 หรือ มอก. 18001 สำหรับหน่วยผลิตพุทธมณฑลสาย 5 จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)

ธุรกิจเม็ดพลาสติค

ครองความเป็นผู้นำในสัดส่วนการตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศและไม่กี่รายในโลกที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต EVA

รางวัลและมาตรฐานที่ได้รับ

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001 : 2000 ในขอบข่ายการพัฒนาและการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ และเอทีลีนไวสนิลอะซีเตตสีพื้นฐาน จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) มาตรฐานระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย TIS 18001 หรือ มอก. 18001 ในขอบข่ายการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ และเอทีลีนไวสนิลอะซีเตต สีพื้นฐาน รวมการจัดเก็บ จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)


2533 ดำเนินกิจการผลิตเม็ดพลาสติก LDPE (Low Density Polyethylene)
ด้วยกำลังการผลิต 78,000 ตันต่อปี เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


2534 จัดตั้งบริษัท ทีพีไอ คอนกรีต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเพื่อประกอบธุรกิจ คอนกรีตผสมเสร็จ


2535 ดำเนินการผลิตปูนซีเมนต์ ด้วยกำลัง การผลิต 2,900,000 ตันต่อปี


2537 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย



2538 ขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ รวมเป็น 5,800,000 ตันต่อปี ขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก LDPE และ EVA (Ethylene Vinyl Acetate) รวมเป็น 158,000 ตันต่อปี


2539 เปิดโครงการปูนสำเร็จรูป



2540 ขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ รวมเป็น 9,000,000 ตันต่อปี บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับโครงสร้างหนี้ (Indicative Term Sheet)


นโยบายการผลิต

นโยบายของบริษัทคือผลิตปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสูงสุด จำหน่ายและส่งมอบปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพ ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายคุณภาพ " มุ่งมั่นในการผลิต จำหน่ายปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพ "


มาตราฐานต่าง ๆ ที่บริษัททีพีไอ โพีลีน จำกัด (มหาชน) ได้รับในธุรกิจปูนซีเมนต์


มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001 : 2000 ในขอบข่ายการผลิต และจำหน่ายปูนซีเมนต์ แบบครบทั้งในส่วนโรงงานสระบุรี สำนักงานใหญ่ และศูนย์จ่ายปูนซีเมนต์ จากสถาบัน AJA Registrars

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 จำนวน 2 ฉบับ ในขอบข่ายการผลิตปูนซีเมนต์ และการกำจัดกากอุตสาหกรรม จากสถาบัน AJA Registrars

มาตรฐานระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย TIS 18001 หรือ มอก. 18001 ในขอบข่ายการผลิตปูนซีเมนต์ และการกำจัดกากอุตสาหกรรม จากสถาบัน AJA Registrars

ในธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก LDPE/EVA

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001 : 2000 ในขอบข่ายการพัฒนาและการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ และเอทิลีนไวสนิลอะซีเตตสีพื้นฐาน จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)

มาตรฐานระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย TIS 18001 หรือ มอก. 18001ในขอบข่ายการผลิตพลาสติกโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ และเอทิลีนไวนิลอะซีเตต สีพื้นฐาน รวมการจัดเก็บ จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)

ในธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001 : 2000 สำหรับหน่วยผลิตรังสิตคลองหลวง จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)

มาตรฐานสากลระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 สำหรับหน่วยผลิตพุทธมณฑลสาย 5 จากสถาบัน BVQI (Bureau Veritas Quality International)

มาตรฐานระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย TIS 18001 หรือ มอก. 18001สำหรับหน่วยผลิตพุทธมณฑลสาย 5 จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)


ในอดีตปูนซีเมนต์มีผู้ผลิตเพียง 3 ราย มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ ใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี รัฐบาลได้พยายามช่วยแก้ไขปัญหาทุกวิถีทาง ท้ายสุดจึงมีมติให้้ผู้สนใจลงทุนสามารถก่อสร้างโรงงาน ผลิตปูนซีเมนต์เพื่อแก้ไข ปัญหาระยะยาว ปี 2533 บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)ได้เริ่มก่อสร้าง โรงงานผลิตปูนซีเมนต์์แห่งแรกที่จังหวัดสระบุรี มีกำลังการผลิต 2.5 ล้านตันต่อปีปี 2537 โรงปูนซีเมนต์แห่งที่ 2 ได้แล้วเสร็จ ทำให้การผลิตสูงเป็นทวีคูณ คือ 5 ล้านตันต่อปี และในปี 2539 ได้เปิดโรงปูนซีเมนต์แห่งที่ 3 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 ล้านตันต่อปี ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการเปิดโรงปูนซีเมนต์แห่งที่ 4 เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 12 ล้านตันต่อปี


ปูนสำเร็จรูป คือ วัสดุผสมระหว่างปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์, หินบดละเอียด และสารเคมีชนิดพิเศษที่มีการ คัดเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของงาน โดยส่วนผสมต่างๆ ผลิตสำเร็จจากโรงงานให้อยู่ในสภาพ เตรียมพร้อมสำหรับการใ้ช้งาน ซึ่งมีหลายประเภทเหมาะกับการใช้งานได้หลากหลายการใช้่งานเพียงแต่ผสมน้ำให้ตรงตามสัดส่วนที่กำหนดก็สามารถ ใช้งานได้ทันที


ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก Low Density Polyethylene (LDPE) ของบริษัท ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า "POLENE" หรือ "โพลีน" เป็นเม็ดพลาสติกโพลีเอธีลีนชนิดที่มีความหนาแน่นต่ำ มีความทนทานต่อสารเคมีที่เป็นกรดและด่างสามารถนำไปแปรรูปได้ง่าย เป็นฉนวนได้ และไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์รวมถึงความสามารถในการรับแรงกระแทกและมี ความยืดหยุ่นได้ดี

โดยแบ่งลักษณะของผลิตภัณฑ์ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ LDPE Homopolymer เหมาะสำหรับงานขึ้นรูปชนิด ต่าง ๆ ได้แก่ งานแผ่นฟิล์ม ได้แก่ ถุงพลาสติกชนิดต่าง ๆ เช่นขนาดเล็กที่ใช้บรรจุสินค้าทั่วไป (ถุงตลาด), ถุงพิมพ์ลาย, ถุงใส่เสื้อผ้า รวมถึงถุงขนาดใหญ่ที่ต้องการการแบกรับน้ำหนักมาก ๆ เช่น ถุงอุตสาหกรรม, ถุงน้ำแข็ง, ถุงบรรจุอาหารแช่เย็น และถุงช้อปปิ้ง ตลอดจนแผ่นฟิล์มที่ใช้ทำวัสดุกันกระแทก (Air bubble sheet) แผ่นฟิล์มใช้หดรัดสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น ฟิล์มรัดกล่อง, ขวดน้ำอัดลม แผ่นฟิล์มรัดสินค้าบนพาเลท เพื่อความสะดวกในการขนส่ง และแผ่นฟิล์มที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ที่นำไปใช้ในงานเพื่อการเกษตร เช่น ฟิล์มรองพื้นปูบ่อน้ำเพื่อการกักเก็บน้ำ, ฟิล์มสำหรับเรือนเพาะชำ (Green house)
งานเป่าเข้าแบบ ได้แก่ การเป่าทำขวดต่าง ๆ เช่น ขวดน้ำเกลือ, ขวดยาหยอดตา, ขวดน้ำดื่มและงานเป่าเพื่อทำกระป๋องและกล่อง
งานฉีดเข้าแบบ ได้แก่ ฝาจุกขวดน้ำ, ฝาขวดน้ำมันพืช และฝาขวดต่าง ๆ เครื่องใช้ในบ้านได้แก่ ตะกร้า และภาชนะบรรจุอาหาร รวมทั้งของเด็กเล่นที่ต้องการลักษณะชิ้นงานที่นิ่ม เป็นต้น
งานแผ่นเคลือบหรือแผ่นประกบ ได้แก่ งานเคลือบบนผิวฟิล์ม, บนผิวแผ่นกระดาษ และบนผิวแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ เช่น ซองบรรจุอาหารแห้ง, ซองยาสระผม เป็นต้น
งานเคลือบผิวโลหะ ได้แก่ การเคลือบลวดเอนกประสงค์ เช่น ตะแกรงวางสินค้า, ชั้นวางของ, ตะกร้า และรถจักรยาน
งานรีดหุ้มท่อร้อยสายไฟ เช่น สายเคเบิ้ล, สายโทรศัพท์, สายไฟฟ้า เป็นต้น

วิสัยทัศน์ (VISION)

เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ มุ่งเน้นการพัฒนา เทคโนโลยี และบุคคลากรอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น และพนักงาน บริหารองค์กรด้วยหลักจริยธรรม และธรรมาภิบาลที่ดี



นโยบายคุณภาพ

มุ่งมั่นในการผลิต จำหน่าย ส่งมอบปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการ

ของลูกค้าสูงสุด และให้มีการปรับปรุงประสิทธิผล ของระบบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 : 2000

ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย TIS 18001

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ที่บริษัททีพีไอ โพลีนฯ ได้รับรองมาตรฐาน ISO 9000 เป็นครั้งแรก

ความสำเร็จในครั้งนั้น เป็นแรงผลักดันที่ทำให้บริษัทยิ่งมุ่งมั่นในปรับปรุงระบบในการทำงานให้ดียิ่งๆขึ้น

จนเมื่อมาตรฐาน ISO 9000 มีการปรับเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นปี 2000 บริษัทฯได้กำหนดแนวทางในการนำ

ความพึงพอใจของลูกค้ามากำหนดเป็นเป้าหมายในทำงาน โดยเน้นให้มีการปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จากความพร้อมเพรียง ความร่วมมือของพนักงาน ทำให้การดำเนินการขอการรับรอง ISO 9001 : 2000

เป็นไปด้วยความราบรื่น จนได้รับการรับรองมาตรฐานISO 9001 : 2000 ในวันที่ 3 กรกฏาคม 2546

จากสถาบันนานาชาติ AJA Registrars

นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงได้นำมาตรฐาน ISO 14001

ระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม มาดำเนินการ และได้รับการรับรองจากสถาบันนานาชาติ AJA Registrars

ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฏาคม 2545 บริษัทฯ ได้จัดทำดำเนินการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย

มาใช้ เช่น เครื่องดักฝุ่นชนิดไฟฟ้าสถิตย์ (Electrostatic Precipitation) ตลอดจนการตรวจวัดผลกระทบ

ด้านสิ่งแวดล้อม ในบริเวณรอบ ๆ โรงงาน และชุมชนใกล้เคียง จึงจัดทำเป็นรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

นำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นมาปรับปรุงการทำงาน และการจัดสภาพแวดล้อมในโรงงานให้ทัศนวิสัยดูสวยงาม

และร่มรื่นและยังมีการดำเนินการในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน จนได้รับรางวัลโรงงาน

ควบคุมที่อนุรักษ์พลังงานยอดเยี่ยม จากการประกวดอนุรักษ์พลังงานดีเด่นปี พ.ศ. 2541

จากสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงาน

บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรบุคคล จึงได้นำมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัย

และความปลอดภัย มอก. 18001 มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพโดยระบบดังกล่าว มุ่งเน้นในการลดความเสี่ยง

อันตราย และอุบัติเหตุต่าง ๆ ของพนักงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิเช่น การประเมิน

ความเสี่ยงจากการทำงาน การสร้างจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การเตรียมความพร้อม

และตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน การเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน จนสามารถทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลสถาน

ประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับจังหวัดและระดับ

ประเทศในปี พ.ศ. 2545 จากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม นับเป็นความสำเร็จที่สำคัญ และบริษัทยัง

ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัย

มอก. 18001 และ OHSAS 18001 จากสถาบันนานาชาติ AJA Registrars ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2546

ความสำเร็จของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ในวันนี้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบคุณภาพ

ด้านต่าง ๆ เกิดจากการสนับสนุนของทุกส่วนงาน ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร และความร่วมมือจากพนักงานทุกระดับ

ชั้น เป็นความภาคภูมิใจที่สำคัญ ทำให้เราก้าวเดินต่อไปในการปรับปรุง พัฒนาศักยภาพของ”ทีพีไอ โพลีน”

อย่างไม่หยุดยั้ง



การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน

โครงสร้างขององค์กร

จุดแข็ง มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ อย่างชัดเจน เป็นบริษัทผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำที่สามารถครอง สัดส่วนการตลาดในประเทศได้ประมาณร้อยละ 20 ในช่วงระยะในช่วงระยะเวลาเพียง 10 ปี ครองความเป็นผู้นำในสัดส่วนการตลาดใน ประเทศสำหรับปูนสำเร็จรูป เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำ ของทั้งในและระหว่างประเทศ ที่มีต้นทุน การผลิตต่ำสุด

จุดอ่อน ขั้นตอนในการบริหารงานเป็น มีหลายลําดับขั้น ขาดความคล่องตัว และความ ยืดหยุ่น ในการบริหารจัดการ

วัฒนธรรมองค์กร

จุดแข็ง สามารถใช้ความสนิทสนม ส่วนตัวในการลัดขั้นตอนที่ ยุ่งยากได้ มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ ในการทํางานที่ชัดเจน

จุดอ่อน มีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ทําให้ ขาดความร่วมมือในการทํางาน

ลักษณะการให้บริการ

จุดแข็ง มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้จำนวนมาก

จุดอ่อน เน้นการผลิดและจำหน่ายให้กับตัวแทนจำหน่าย จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคโดยตรง

งบประมาณ

จุดอ่อน การจัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่ มาจากส่วนกลาง ไม่ได้มาจาก ความต้องการของหน่วยงาน

ผู้บริหาร

จุดแข็ง ผู้บริหารระดับสูงมีวิสัยทัศน กล้าตัดสินใจ

จุดอ่อน ผู้บริหารไม่ทราบถึงปัญหาที่พบ ในการทํางานอย่างแท้จริง

พนักงาน

จุดแข็ง มีจํานวนพนักงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในงานที่ปฏิบัติอยู่ จํานวนมาก มีการอบรมให้ความรู้ในเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน

จุดอ่อน ขาดการสนับสนุนให้พนักงาน ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ อย่างเต็มที่ การฝากอบรมให้ความรู้แก่ พนักงานขาดความต่อเนื่อง และ ขาดการวัดผล พนักงานขาดการมีวิสัยทัศนะ ร่วมกัน พนักงานขาดความรู้และทักษะ ในการทํางานเป็นทีม พนักงานขาดความรับผิดชอบ และทักษะในการให้บริการที่ดี

เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยี

จุดแข็ง องค์กรให้ความสําคัญใน การจัดหาเทคโนโลยีเพื่อมาช่วย สนับสนุนในการดําเนินงาน โครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีเพียงพอต่อความ ต้องการในการใช้งานสารสนเทศ

จุดแข็ง มีระบบที่ช่วยในการจัดเก็บข้อมูล และสารสนเทศ แหล่งที่เก็บข้อมูลสารสนเทศมี จํานวนมากเพียงพอต่อการใช้งาน

จุดอ่อน การเก็บข้อมูลสารสนเทศ แยกกันเก็บตามแต่ละหน่วยงาน ไม่มีการนํามาบูรณาการกันระหว่าง หน่วยงาน

กระบวนการเรียนรู้

ระดับการเรียนรู้

จุดแข็ง พนักงานเรียนรู้โดยใช้ปัญหา เป็นหลัก พนักงานเรียนรู้เฉพาะงานที่ ตนเองได้รับผิดชอบ

จุดอ่อน พนักงานขาดการเรียนรู้ในงาน ที่เกี่ยวข้อง พนักงานขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วยตนเอง และพนักงานขาดการเรียนรู้ในวิธีการทํางานและการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ทักษะ

จุดอ่อน พนักงานขาดทักษะทางด้าน ความคิดเชิงระบบ มองเป็นส่วนๆ พนักงานขาดความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ .พนักงานขาดทักษะการเรียนรู้ แบบชี้นําตนเอง ต้องรอให้มีคําสั่ง ถึงจะสนใจ พนักงานขาดทักษะทางด้าน การสื่อสาร การนําเสนอความคิด ไม่สามารถอธิบายข้อเสนอแนะ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้

กระบวนการจัดการความรู้

การแสวงหาความรู้

จุดแข็ง องค์กรมีจัดการการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กรเพื่อให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

จุดอ่อน องค์กรยังไม่มีการแสวงหาความรู้ ที่ตรงกับลักษณะการทํางาน การฝึกอบรมขาดความต่อเนื่อง และขาดการติดตามวัดผลที่ดี ความรู้ที่ได้มาส่วนใหญ่ไม่มี ความทันสมัยและไม่ตรงต่อความ ต้องการ

การสร้างความรู้

จุดแข็ง องค์กรมีการวิเคราะห์แนวโน้ม ของภาคธุรกิจต่างๆ ไว้ให้ผู้สนใจ อ่าน

จุดอ่อน องค์กรยังไม่เห็นถึงความสําคัญ ของการสร้างความรู้ การสร้างความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังเป็นความรู้แบบทั่วๆ ไปไม่ตรง และไม่ทันต่อความต้องการใช้งาน

การจัดเก็บความรู้

จุดแข็ง องค์กรมีระบบ Intranet ไว้ สําหรับการจัดเก็บความรู้ที่ได้ แสวงหาหรือสร้างมา

จุดอ่อน องค์กรไม่มีระบบการจัดเก็บ ความรู้ที่ดีและตรงกับการใช้งาน

การวิเคราะห์และการทําเหมือง ความรู้

จุดอ่อน องค์กรยังไม่มีการทําเหมือง ความรู้

การถ่ายโอนและเผยแพร่ความรู้

จุดแข็ง องค์กรมีระบบ Intranet ไว้ สําหรับการเผยแพร่ความรู้

จุดอ่อน การเผยแพร่ความรู้ขาดความน่าสนใจ และไม่มีความต่อเนื่อง

การประยุกต์ใช้ความรู้

จุดอ่อน พนักงานขาดการนําความรู้ที่มีอยู่ ทั้งความรู้ที่ตนเองมีและความรู้ที่ องค์กรมีอยู่มาประยุกต์ใช้ในงาน

การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก

ประเด็นเศรษฐกิจ

โอกาส เศรษฐกิจมีการขยายตัว ภาครัฐมีการส่งเสริมให้มีการลงทุนขนาดใหญ่ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้นทำให้ธุรกิจการก่อสร้าง ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นสังคม

บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของสังคม และยังไดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สามารถนำไปใช้งานได้อย่างสะดวกไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ประเด็นการเมือง

รัฐบาลส่งเสริมให้มีการลงทุน มีการจ้างงาน มีการสร้างโรงงาน รวมทั้งที่อยู่อาศัย ทำให้ผลิตภัณฑ์ มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นเทคโนโลยี

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้การติดต่อสื่อสารกันสะดวกรวดเร็ว สามารถเปิดตลาดได้มากขึ้น ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา สามารถสั่งซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

วิสัยทัศน์การจัดการความรู้

เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และมีระบบการจัดการความรู้ที่มีประสิทธิภาพในองค์กร โดยมีเทคโนโลยี สื่อสารและสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการค้นหา พัฒนา และจัดการความรู้เพื่อสู่ความเป็นเลิศ ในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิตสินค้าแบบครบวงจร และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

แนวทางแก้ปัญหาการจัดการความรู้

กลยุทธ์

การจัดการฝึกอบรมและศึกษาดูงาน แสวงหา ความรู้ใหม่ทั้งภายในและภายนอก องค์กร เพื่อนํามาปรับใช้ ให้เหมาะสมกับบริบท ของหน่วยงาน และมี ชุมชนนักปฏิบัติเพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และจัดกลุ่มการเรียนรู้ของแต่ละแผนก

โครงการ

ค้นหาปัญหาจากการปฏิบัติงาน และเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

กระบวนการ

จัดกลุ่มในแต่ละแผนกเพื่อค้นหาปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน แล้วนำมาจัดทำ QCC

จัดหลักสูตรอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดให้มีการประเมินผลและติดตาม

จัดทำเป็นมาตรฐานในการแก้ปัญหาของแต่ละแผนก เพื่อนำไปเรียนรู้และปฏิบัติงานต่อไป

เป้าหมาย

ตั้งเป้าหมายให้แต่ละกลุ่มจัดทำโครงการ QCC อย่างน้อยปีละ 2 เรื่อง